ผลไม้อะไรที่มีโปรตีนสูง

ผลไม้อะไรที่มีโปรตีนสูง กำลังมองหาวิธีเพิ่มปริมาณโปรตีนของคุณหรือไม่ นี่คือผลไม้ชนิดที่มีโปรตีนสูง

หากคุณกำลังพยายามบรรลุเป้าหมายโปรตีนในแต่ละวันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหรือลดน้ำหนัก คุณอาจสงสัยว่าผลไม้ชนิดใดที่มีโปรตีนสูง มีแหล่งที่ยอดเยี่ยมมากมาย และแม้ว่าโปรตีนจำนวนเล็กน้อยในผลไม้อาจไม่สร้างความแตกต่างอย่างมากต่อการบริโภคโดยรวมของคุณ แต่ก็ยังสามารถให้โปรตีนเพิ่มเติมแก่คุณได้ การรวมผลไม้ในอาหารของคุณเป็นวิธีที่ดีในการเติมวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และไฟโตนิวเทรียนท์ที่ส่งเสริมสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ผลไม้ไม่สามารถถือเป็นอาหารสร้างกล้ามเนื้อได้ เพื่อให้เป็นความต้องการโปรตีนส่วนใหญ่ของคุณ คุณควรเน้นที่การรวมอาหารที่มีโปรตีนสูงไว้ในมื้ออาหารของคุณ หรือลงทุนในผงโปรตีนที่ดีที่สุด

แต่ถ้าคุณต้องการบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

ต่อไปนี้คือผลไม้เจ็ดชนิดที่มีโปรตีนสูงที่รวมไว้ในอาหารของคุณเมื่อพูดถึงผลไม้ที่มีโปรตีนสูง ฝรั่งจะครองมงกุฎ ประกอบด้วยโปรตีนเกือบ 4.2 กรัมต่อถ้วย ทำให้เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีโปรตีนมากที่สุด ฝรั่งเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกส่วนใหญ่ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อกรุบกรอบและรสหวานที่คล้ายลูกพีชและสตรอเบอร์รี่ผสมกัน ฝรั่งเป็นแหล่งที่ดีของไฟเบอร์ วิตามินซี และโพแทสเซียม

บทความทบทวนของการศึกษาต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน Open Access: Toxicology & Research (เปิดในแท็บใหม่)

ยังแนะนำว่าฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งเควอซิทิน คาเทชิน และไอโซฟลาโวนอยด์ สารประกอบเหล่านี้ได้รับการแสดงว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรียที่แข็งแกร่ง สงสัยว่าวิธีที่ดีที่สุดในการกินฝรั่งคืออะไร? คิดว่ามันเหมือนกับที่คุณนึกถึงแอปเปิ้ล แค่ล้างออกแล้วกัดเข้าไป ผิวหนัง เนื้อ และเมล็ดพืชกินได้ทั้งหมด

เมื่อนึกถึงผลไม้ที่มีโปรตีนสูง โอกาสที่อะโวคาโดจะไม่ทำให้คุณนึกถึง อย่างไรก็ตาม ผลไม้สีเขียวครีมนี้มีสารอาหารหลักในปริมาณที่น่าประหลาดใจ เกือบ 3 กรัมต่อถ้วย

ในเวลาเดียวกัน อะโวคาโดมีโซเดียมและคาร์โบไฮเดรตต่ำ จึงสามารถรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำได้อย่างง่ายดาย และเป็นแหล่งที่ดีของไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เส้นใยพรีไบโอติก และโพแทสเซียม ตามรีวิวที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients (เปิดในแท็บใหม่) การบริโภคผลไม้สีเขียวเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมากและปรับปรุงสุขภาพลำไส้ของคุณ อะโวคาโดเป็นผลไม้อเนกประสงค์ คุณสามารถปั่นเพื่อทำกัวคาโมเล่ บดบนขนมปังปิ้ง หรือใส่ลงในสลัดก็ได้ บางคนชอบอะโวคาโดรสหวาน เสิร์ฟพร้อมลูกพีชสไลซ์และราดด้วยน้ำผึ้ง

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

วัคซีนแต่ละประเภท การปฏิบัติตัวเมื่อเข้ารับวัคซีน และหลังการรับวัคซีน

หลังการรับวัคซีน ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าที่ผ่านมาจนถึงในขณะนี้การระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย ยังมีการระบาดโดยตลอด ซึ่งการได้รับวัคซีน เป็นสิ่งจำเป็นรวมทั้งสำคัญมาก ๆ เพื่อเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในตอนนี้มีวัคซีนที่ผลิตจากประเทศต่าง ๆ มากมาย วันนี้พวกเราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ วัคซีนแต่ละแบรนด์กันเพิ่มมากขึ้น

– Astrazeneca ผู้คิดค้น คือ ประเทศสวีเดน และอังกฤษ ความสามารถสำหรับการคุ้มครองป้องกันเท่ากับ 70 – 80% ปริมาณที่ต้องคือ 2 โดส โดยให้ฉีดห่างจากโดสแรก 4-12 อาทิตย์ ผลกระทบ เช่น ปวดรอบ ๆ ที่ฉีด ไข้ อ่อนแรง หลังรับวัคซีน

– Sinovac คิดค้นโดยประเทศ จีนคุณภาพสำหรับในการคุ้มครองปกป้อง  50% ปริมาณโดสที่ต้องการ  2 โดส โดยให้ฉีดห่างจากโดสแรก  2 อาทิตย์ ผลกระทบ เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย หลังรับวัคซีน

– Sputnik V คิดค้นโดยประเทศ รัสเซีย ความสามารถสำหรับในการคุ้มครองปกป้อง  90% ปริมาณโดสที่ต้องการ 2 โดส โดยให้ฉีดห่างจากโดสแรก  3 อาทิตย์  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน   ผลกระทบ เช่น ปวดศรีษะ ปวดกล้าม อ่อนแรง หลังรับวัคซีน

– Sinopharm คิดค้นโดยประเทศ จีน คุณภาพสำหรับเพื่อการปกป้อง 80% ปริมาณโดส 2 โดส โดยให้ฉีดห่างจากโดสแรก  3-4 อาทิตย์ ผลกระทบ เช่น ปวดศรีษะ ปวดกล้าม เมื่อยล้า หลังรับวัคซีน

– Novavax คิดค้นจากประเทศสหรัฐอเมริกา คุณภาพสำหรับเพื่อการคุ้มครองป้องกัน 90% ปริมาณโดส 2 โดส โดยให้ฉีดห่างจากโดสแรก 3 อาทิตย์ ผลกระทบ ปวดรอบ ๆ ที่ฉีด ปวดศรีษะ อาเจียน หลังรับวัคซีน

ปฏิบัติอย่างไร เมื่อเข้ารับการฉีดยา

ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด รวมทั้งเว้นระยะห่าง จัดแจงเอกสารที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการเข้ารับบริการให้พร้อม ก่อนรับการฉีดยา ชี้แนะให้ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัด เพื่อคุ้มครองผลกระทบพื้นฐานสอดคล้องกับการดำรงชีพ ถ้ามีโรคประจำตัวหรือ ยาที่จะต้องกินบ่อย ๆ ควรจะแจ้งพยาบาลก่อน

ปฏิบัติอย่างไร หลังรับการฉีดยา

ควรจะคอยหรือพักรอดูอาการที่จุดบริการก่อน 30 นาที ถ้ามีลักษณะอาการแตกต่างจากปกติ ควรจะรีบแจ้งให้กับพยาบาลทราบดูลักษณะของตนเองต่ออีก 48 – 72 ชั่วโมง ถ้าเกิดเจออาการแตกต่างจากปกติที่ร้ายแรง ควรจะรีบไปพบหมอในทันที ควรจะฉีดให้ครบโดส ตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อคุณภาพสำหรับการปกป้องคุ้มครอง ควรตรึกตรองและก็คิดสิ่งที่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ก่อนฉีดยา ดังต่อไปนี้

– ประวัติการแพ้ยา วัคซีน ของกิน สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ อย่างหนักหรือจนกระทั่งก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต

– จับไข้เกิน 38 องศาเซลเซียสในวันที่นัดหมายฉีดยา

– มีรอยฟกช้ำ หรือจ้ำเลือด หรือเลือดไหลไม่ปกติ หรือมีการใช้ยาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดอยู่ 

– เป็นผู้มีภูมิต้านทานต่ำหรือใช้ยากดภูมิต้านทานอยู่ 

– หาเป็นเข็มสอง ให้แจ้งอาการที่เกิดขึ้นจากการฉีดเข็มแรก

– กำลังมีครรภ์ หรือให้นมลูก

NJPA มุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัยของคุณในช่วงเวลาที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้

NJPA มุ่งมั่นที่จะรักษา แพทย์ของ NJPA แนะนำให้คุณรับวัคซีนโควิด เราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากประสบการณ์ของเรากับโควิดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับการเจ็บป่วยที่รุนแรง ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู การใช้เครื่องช่วยหายใจ และการเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการคลอดก่อนกำหนดและการตายคลอดของทารกของคุณ ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนและผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน เป็นต้น มีความเสี่ยงสูงยิ่งขึ้นไปอีก

ไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ใดที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือสูญเสียการตั้งครรภ์ อันที่จริง

ไม่มีหลักฐานของผลลัพธ์ที่เลวร้ายต่อแม่หรือทารกจากการฉีดวัคซีนแก่ผู้ตั้งครรภ์ คุณสามารถรับวัคซีนโควิด-19 ควบคู่กับวัคซีนอื่นๆ ได้ คุณควรได้รับเครื่องกระตุ้นในระหว่างตั้งครรภ์เช่นกัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในท้องถิ่นและการเจ็บป่วยที่รุนแรงในสตรีมีครรภ์ เราขอแนะนำให้คุณไม่รอเพื่อรับยากระตุ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ข้อมูลนี้ได้รับการสนับสนุนจาก CDC, ACOG, SMFM และสมาคมการแพทย์อื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน

หากคุณกำลังคิดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์แล้ว เพิ่งคลอด หรือรู้จักใครที่กำลังตั้งครรภ์หรือกังวลเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ รับวัคซีนของคุณตอนนี้และอยู่อย่างปลอดภัย โปรดดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโควิดด้านล่างจาก Society for Maternal-Fetal Medicine SMFM คำแนะนำทางคลินิก

เอกสารการศึกษาผู้ป่วย SMFM แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโควิด ในขณะที่เราตอบสนองต่อแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กรมสาธารณสุขของรัฐนิวเจอร์ซีย์ สมาคมเวชศาสตร์ทารกในครรภ์ (SMFM) และวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งอเมริกา (ACOG) เราตระหนักดีว่าการดูแลก่อนคลอดยังคงอยู่ จำเป็นสำหรับทั้งแม่และลูก พนักงานของเราใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของคุณผ่านการฆ่าเชื้อพื้นผิวและอุปกรณ์ระหว่างผู้ป่วย การให้คำปรึกษาอาจเกิดขึ้นผ่านเทคโนโลยีเสมือนเมื่อเป็นไปได้ เนื่องจากเราพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อลดจำนวนห้องรอ

ผู้เข้าพักที่อายุเกิน 18 ปี 1 คนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปกับผู้ป่วยในสถานที่ต่างๆ ของเราที่ Livingston, Teaneck, Westfield และ Warren โปรดทราบว่า ในปัจจุบัน นโยบายของโรงพยาบาลที่สถานที่ Belleville Clara Maass ของเรายังคงห้ามไม่ให้ผู้มาเยี่ยมผู้ป่วยของเราไปด้วย

เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ หากคุณเคยสัมผัสกับเชื้อโควิด-19 หรือสงสัยว่ามีอาการที่น่าเป็นห่วง เช่น มีไข้ ไอ หายใจลำบาก ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ หรืออาการทางเดินอาหาร คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนตารางนัดหมายใหม่และถ้าหากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลของคุณ โปรดอย่าลังเลที่จะโทรหาเราที่ NJPA เราสามารถที่จะให้คำปรึกษาและช่วยเหลือได้อย่างทันถ้วงที

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังศิริราช

หลังฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าห้ามทำอะไรบ้าง

ในขณะนี้ในประเทศไทยของเราเริ่มมีการฉีดวัคซีนโมเดอร์น่ากันแล้วซึ่งเป็นวัคซีนmRNAเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ดีช่วยป้องกันการติดเชื้อลดอาการรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตซึ่งหลายคนฉีดไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่กำลังจะไปฉีวัคซีนโมเดอร์น่า

ดังนั้นเราจะมาพูดถึงข้อสงสัยว่า หลังฉีดวัคซีนโมเดอร์น่า ห้ามทำอะไรบ้างเดี๋ยวมาฟังกัน ข้อที่หนึ่ง ออกกำลังกาย หลายคนถามว่าหลังฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าสามารถออกกำลังกายได้หรือเปล่าคำตอบก็คือ (ได้) ไม่ได้เป็นข้อห้ามอะไรแต่แนะนำว่าไม่ควรออกให้เหนื่อยจนเกินไปควรออกแต่พอดีๆประมาณ1/2วันหรือว่าอาทิตย์นึงหลังจากฉีดวัคซีนมาแล้ว

และที่สำคัญให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายบริเวณที่เราฉีดวัคซีนเช่นถ้าเราฉีดวัคซีนมาที่แขนซ้ายอาจจะงดการยกเวทหรือว่าออกกำลังกายออกหนักๆบริเวณแขนซ้ายเพราะจะทำเกิดอาการปวดบวมแดงร้อนได้บริเวณที่ฉีดนั่นเอง

ข้อที่สอง ดื่มชา กาแฟ อันนี้ถามมาเยอะมากเลยว่าหลังจากฉีดวัคซีนโมเดอร์น่าสามารถดื่มชาและก็กาแฟได้หรือเปล่าคำตอบก็คือ (สามารถดื่มได้) ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่สำหรับใครที่ไม่เคยดื่มชากาแฟมาก่อนไม่แนะนำให้ดื่ม เพราะว่าถ้าดื่มเข้าไปแล้วอาจจะทำให้อาการใจสั่นหลังจากฉีดวัคซีนได้

พอมีอาการใจสั่นขึ้นมาก็จะเริ่มสับสนแล้วว่าเกิดจากการที่เราดื่มกาแฟดื่มชาหรือว่าเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีนโดยเฉพาะวัคซีนโมเดอร์น่าเป็นวัคซีนที่มีผลข้างเคียงคือเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบแล้วก็กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้อาการหนึ่งของเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบคืออาการใจสั่นนั่นเอง ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ให้หลีกเลี่ยงแต่ถ้าสำหรับใครที่ติดชาหรือกาแฟก็สามารถที่จะดื่มได้ตามปกติ

ข้อที่สาม นอนน้อยสามารถฉีดวัคซีนได้หรือเปล่าคำตอบก็คือ (ฉีดได้) ไม่ได้เป็นข้อห้ามหลายคนเริ่มกังวลบางทีอยู่เวรหรือว่าเข้ากะแบบนี้อยู่เวรกลางคืนพอลงเวรมาจะต้องไปฉีดวัคซีนก็สามารถไปฉีดได้ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่สำหรับใครที่สามารถนอนได้ก็แนะนำว่าให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

เพราะว่าการนอนพักผ่อนให้เพียงพอมันก็จะทำให้ร่างกายของเราสดชื่นแล้วก็แข็งแรงมากที่สุดก็จะเป็นการลดผลข้างเคียงได้ดีที่สุดแต่สำหรับใครที่ไม่สามารถนอนได้ก็สามารถไปฉีดได้ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ข้อที่สี่ กินส้มตำได้หรือเปล่าคำตอบก็คือสามารถ (กินได้) ไม่ได้เป็นข้อห้ามเลยแต่แนะนำว่าให้รับประทานอาหารที่สุกและสะอาดจะดีที่สุดใครจะทานปลาร้าก็ควรจะเป็นปลาร้าที่สุกเพราะว่าถ้าเราไปรับประทานอาหารที่ไม่สุกแล้วเวลาเรารับประทานจะทำให้ท้องเสียได้

ดังนั้นหลังฉีดวัคซีนมาก็อาจจะทำให้มีอาการรุนแรงอาจจะมีไข้หรือว่าถ่ายเยอะกว่าเดิมเพราะฉะนั้นแล้วแนะนำว่าให้ทานของที่สุกและสะอาดก็จะเป็นการดีที่สุดหลังฉีดวัคซีน

 

สนับสนุนโดย.    ชุดตรวจ hiv

ผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา

สายตา เป็นอวัยวะที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากต่อร่างกายเรา เพราะปกติแล้วสายตาเป็นหัวใจสำคัญต่อการใช้ชีวิต หากขาดสายตาที่ดีไป การใช้ชีวิตของเราก็อาจยากลำบากมากขึ้น

ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาดวงตาให้เป็นอย่างดี เพื่อให้การมองเห็นได้ดียิ่งขึ้น ผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา การดูแลดวงตาสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารบำรุงสายตา หรือรับประทานอาหารเสริมบำรุงสายตา เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีสายตาที่ดีกันทั้งนั้น

สมัยนี้เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เน้นการดูแลสายตาไปในทางที่เลือกรับประทานอาหารเสริมมากว่า แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราเลือกรับประทานผัก และผลไม้ก็สามารถช่วยในการบำรุงสายตาของเราได้เช่นกัน จากการวิจัยจะพบว่าการรับประทานผักผลไม้จะสามารถช่วยในการดูแลรักษาและ ผลไม้ที่ช่วยบำรุงสายตา ของเราให้ดีมากขึ้น ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำผลไม้ที่สามารถช่วยบำรุงสายตาของเราให้ดี จะมีผลไม้ประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

กีวี่ เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิเดนท์ ซึ่งสามารถช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาของเราได้อีกด้วย การรับประทานกีวี่เป็นประจำ ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณให้สวยได้เท่านั้น

ยังสามารถลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม ต้อกระจก หรือตาฝ้าฟาง เป็นต้น ทั้งยังรวมไปถึงการบำรุงรักษาในด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ยิ่งถ้าเรากินมากแค่ไหนก็จะยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดังนั้น หากใครที่อยากมีสายตาที่ดี ผลไม้ประเภทกีวี่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด 

ลูกพลับ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ลูกพลับบนั้นสามารถช่วยบำรุงสายตาของเราได้ ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ใยอาหาร แมกนีเซียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับดวงตาของเรา เพราะจะช่วยลดอาการต้อกระจกตา แก้ตาฝ้าฟาง เป็นต้น ผลไม้ประเภทนี้จะมีวิตามินมากถึง 3 เท่า จึงสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสายตาของเราได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากใครที่ต้องทำงานอยู่กับหน้าจอคอมเป็นประจำ การรับประทานลูกพลับจะสามารถช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี 

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลนี้จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็คือความเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งผลไม้ตระกูลนี้จะสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลาย ทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเราอีกด้วย เพราะสามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว และยังดีต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังสามารถช่วยบำรุงสายตา ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ โดยจะช่วยป้องกันอาการตาล้า จากการใช้สายตาหนักเกินไป หรือช่วยในเรื่องของการทำให้สายตาทำงานได้มากยิ่งขึ้น แต่ไม่เพียงแค่นี้ การรับประทานผลไม้ตระกูลนี้เป็นประจำ ยังช่วยลดอาการปวดบวมในลูกตาของเราได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์ ต้องรักษาอย่างจริงจัง

ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ถูกพบมากขึ้นใน ๆ ทุกปี รู้หรือไม่ว่าโรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์ ที่สามารถทหมีอาการ ปวดบวม ตามข้อต่าง ๆ โดยอาจส่งผลเสียต่ออวัยวะในร่างกายได้ โดยเฉพาะ หัวใจ ปอด เส้นประสาท และอื่น ๆ

การดูแลและรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

การรักษาโรคนี้ปกติแล้วจะเป็นการใช้ยารักษา และการเข้ารับการผ่าตัด เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยยาที่ใช้รักษาจะเป็นยาที่ลดอาการปวด เช่น เอ็นเสด สารยับยั้ง  COX II   และ Corticosteroid นอกจากนี้ยังใช้ยาที่ช่วยเรื่องหยุดความเสียหายที่เกิดต่อข้อ ทั้งนี้หากแพทย์จ่ายยาไปแล้ว และนัดตรวจ ไม่ควรหนีหายไม่ไปตามนัด และไม่ควรหยุดยาเอง ด้วยความเข้าใจผิดว่าดีขึ้นแล้ว หายปวดแล้ว

ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์  การเยียวยารักษาโรค บางทีอาจส่งผู้เจ็บป่วยไปยังผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสำหรับเพื่อการบำบัดรักษาโรคหรือนักกายภาพที่ช่วยสอนให้คนป่วยออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อกระดูกต่าง ๆ ผู้ชำนาญบางทีอาจชี้แนะช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้คนเจ็บนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้เครื่องมือช่วยเหลือที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายดายมากยิ่งขึ้นแล้วก็เลี่ยงความเจ็บ หรือการลงน้ำหนักไปที่ข้อได้ 

การผ่าตัด ถ้าเกิดการดูแลและรักษาด้วยยาไม่เป็นผลสำหรับการคุ้มครองปกป้องการบาดเจ็บที่ข้อต่อ หรือไม่สามารถชะลอข้อกระดูกให้ถูกทำลายช้าลงได้  พูดง่าย ๆ คือ ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็น คุณหมอผู้เชี่ยวชาญอาจไตร่ตรองให้กระทำการผ่าตัดเพื่อรักษาข้อที่มีการเสื่อมหรือถูกทำลาย

ซึ่งการผ่าตัดบางทีอาจช่วยปรับให้ข้อต่อสามารถใช้การได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดความเจ็บรวมทั้งช่วยปรับปรุงส่วนที่ผิดรูปผิดร่างให้กลับมาดีขึ้นได้ ซึ่งบางทีอาจใช้การผ่าตัดเพียงอย่างเดียวหรือรวมถึงแนวทางอื่น ๆ อาทิเช่น การผ่าตัดเยื่อหุ้มห่อข้อ (Synovectomy) การเย็บเส้นเอ็นรอบข้อที่เสียหาย รวมทั้งการผ่าตัดใช้ข้อเทียม (Total Joint Replacement)

รู้หรือไม่ว่าหากป่วยเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ สามารถมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมันสามารถลามไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย แล้วป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคไข้ข้ออักเสบ โรคปากแห้งตาแห้ง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยรูมาตอยด์มีอาการที่หนักขึ้น ควรจะรักษากับแพทย์ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่ยอมรักษาจะเป็นรุนแรงขึ้น และจะเสี่ยงต่อการเดินไม่ได้

นอกจากกรรมวิธีรักษาดังที่กล่าวมา ผู้ป่วยก็ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ เอาใจใส่ต่อข้อของตัวเองให้มาก ๆ เพิ่มความระมัดระวังที่จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นและอาจทานแต่สิ่งดี ๆ ได้แก่ การกินน้ำมันปลา น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เป็นต้น

 

สนับสนุนโดย.    เวปเจตใหม่

ป่วยเป็นไข้หวัดดูแล ตนเองอย่างไร 

               อาการป่วยที่เราสามารถเป็นได้ในทุกฤดูกาลนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของไข้หวัด   ซึ่งปกติแล้วคนเราสามารถเป็นไข้หวัดได้ไม่ว่าจะเป็นในฤดูร้อนหรือในฤดูหนาวรวมถึงฤดูฝนเรียกได้ว่าเมื่อมีอากาศเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำให้เรานั้นป่วยเป็นโรคไข้หวัดได้นั่นเอง

          อย่างไรก็ตามเรารู้กันอยู่แล้วว่าสาเหตุของการเป็นไข้หวัดนั้นมาเพราะว่าร่างกายของเราอ่อนแอแล้วมีเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายของเราโดยมันจะไปทำลายระบบการทำงานในร่างกายของเราแต่อย่างไรก็ตามไข้หวัดนั้นโดยปกติแล้วไม่ได้ส่งผลรุนแรงถึงแก่ความตายซึ่งคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดนั้นใช้ระยะเวลานานอาการป่วยเพียงแค่ประมาณ 3 วันเท่านั้นอาการก็ดีขึ้นตามลำดับแล้วนั่นเอง  

          โดยปกติแล้วคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดนั้นจะเริ่มตั้งแต่มีอาการเจ็บคอหลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการจามและเริ่มมีน้ำมูกไหลซึ่งน้ำมูกนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้ำมูกใสๆแต่ถ้าหากอาการรุนแรงขึ้นน้ำมูกอาจจะเป็นสีข้นเขียวแบบหนืดหนืดได้  นอกจากนี้อาจจะมีอาการอ่อนเพลียมีตัวร้อนมีไข้เล็กน้อยเต็มที่ไข้จะสูงไม่เกิน 40 องศาอย่างแน่นอนที่สำคัญอาจจะมีอาการเสียงแหบร่วมด้วย 

       อย่างไรก็ตามถ้าหากใครเป็นไข้หวัดที่มีอาการรุนแรงมากก็อาจจะมีอาการปวดตามร่างกายปวดหัวมากรวมถึงมีอาการกินอาหารแล้วไม่รู้รสซึ่งอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการระคายเคืองที่ดวงตามีขี้ตาแฉะได้อีกด้วยแต่ปัญหาเหล่านี้นั้นสามารถรักษาได้ด้วยการที่ผู้ป่วยนั้นนอนพักผ่อนให้เพียงพอและพยายามกินน้ำให้มากที่สุด

       โดยน้ำที่กินนั้นควรจะเป็นน้ำเปล่านอกจากนี้ถ้าหากมีอาการตัวร้อนเป็นไข้ก็พยายามลดอุณหภูมิในร่างกายด้วยการเช็ดตัวประมาณเพียงแค่ 3 วันอาการก็จะทุเลาลงและถ้าเกิดว่าดูแลตนเองอย่างดีเต็มที่ก็ไม่เกิน 7 วันก็หายจากอาการป่วยไปเองโดยที่คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดนั้นสามารถหาซื้อยาแก้ปวดหัวหรือยาลดไข้กินเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ได้เช่นเดียวกัน 

       สำหรับวิธีการรักษาคนป่วยที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนั้นต้องดูอาการหากว่ามีอาการไอให้เตรียมยาแก้ไอหรือถ้าหากปวดหัวและมีไข้ก็กินยาลดไข้แต่หลักๆแล้วจะต้องมีการนอนพักผ่อนให้เพียงพอแล้วกินน้ำเยอะๆเพียงเท่านี้อาการไข้ก็สามารถหายได้เอง 

   อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เป็นไข้หวัดนั้นโดยปกติแล้วมักจะเกิดจากร่างกายภูมิคุ้มกันลดลงเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออาจจะติดไข้หวัดจากคนอื่นมารวมถึงถ้าหากใครสูบบุหรี่จะจัดก็อาจจะทำให้ป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่ายกว่าคนอื่นนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    สมัครเว็บหวยฮานอย

มีโรคประจำตัวยิ่งต้องระวัง ไวรัสโคโรนา 2019

ในช่วงที่ไวรัสโคโรนา 2019 กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ ทุก ๆ คน ต้องระวังตัวให้ดีที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่แข็งแรงเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ง่าย อย่างเช่นผู้สูงอายุที่แก่มากยิ่งกว่า 60 ปี คนที่มีโรคประจำตัว ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำอยู่แล้ว

อีกทั้งในคนที่ป่วยเป็นเบาหวาน ความดันเลือดสูง โรคเส้นเลือดหัวใจหรือสมอง ถ้าได้รับเชื้อ COVID-19 จะปรากฏลักษณะของโรคปอดอักเสบ ถ้าเกิดไม่รีบรักษาบางทีอาจก่อให้เกิดระบบหายใจล้มเหลวกะทันหัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจวาย หรือเชื้อไวรัสกระจัดกระจายในกระแสโลหิตรวมทั้งอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้

อาการเมื่อได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะเป็นอย่างไร

เมื่อรับเชื้อเข้าไป เชื้อจะมีระยะฟักตัวอยู่ 2 – 14 วัน โดยคนไข้ 1 ราย สามารถกระจายเชื้อให้บุคคลอื่นได้เฉลี่ย 2 – 4 คน แต่หากอยู่ในสถานที่ ๆ คนเยอะ ๆ ก็สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่านี้ด้วยเช่นกัน 

ลักษณะที่จะเกิดขึ้น คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คัดจมูก จาม หอบอ่อนแรง แน่นหน้าอก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ปวดหัว และอ่อนล้า ท้องร่วง อ้วก ความร้ายแรงของโรคนี้ไม่เหมือนกัน ขึ้นกับในแต่ละบุคคล สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหากได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะทำให้มีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น 

จากข้อมูลผู้ป่วย 138 เคสที่ได้รับเชื้อไวรัส COVID-19 ในเมืองอู่ฮั่น เมืองจีนกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีอาการหนักระยะวิกฤตจะมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นโรคความดันสูงร้อยละ 58 เป็นโรคเบาหวานร้อยละ 22 เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจร้อยละ 25 และป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองร้อยละ 17

การดูแลตัวเองในคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานรวมทั้งภาวะความดันโลหิตสูง

– ทานยารักษา ที่แพทย์สั่งจ่ายอย่างเคร่งครัด สังเกตตัวเอง เมื่อมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น หลังจากทานยานี้ ให้รีบบอกคุณหมอให้เร็วที่สุด

– คนที่ป่วยโรคเบาหวาน ควรจะตรวจเช็คเท้าวันว่า มีรอยแผล หรือจุดบวมแดงไหม ถ้ามีแล้วแผลไม่สามารถที่จะหายได้เอง ให้รีบไปพบคุณหมอโดยทันที

– คนที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานควรจะตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองเป็นประจำทุกวัน ซึ่งอาจมากกว่าวันละ 1 ครั้ง และก็เขียนบันทึกระดับน้ำตาลไว้ เมื่อใดไปพบคุณหมอตามนัดหมาย ให้นำบันทึกระดับน้ำตาลนี้ไปด้วย

– ควรจะควบคุมระดับความดันเลือดให้น้อยกว่า 140/90 นอกจากนี้ก็ควรจะวัดระดับความดันเลือดพร้อมขียนบันทึกไว้

– ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินกว่าเกณฑ์ ถ้ามีน้ำหนักตัวเกินกว่าเกณฑ์ควรจะลด รวมทั้งเลือกกินอาหารที่มีคุณภาพ โดยการลดทานเค็ม ของดอง ลดของมัน หวาน เพิ่มปริมาณผักและก็ผลไม้

– ไม่สูบบุหรี่ เป็นแนวทางที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับการลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิต

– หลีกเลี่ยงความเคร่งเครียด ไม่เก็บมาคิดสะสม เพราะว่าความเคร่งเครียดจะทำให้ระดับน้ำตาลและก็ความดันเลือดสูงขึ้น

นอกจากนี้ในผู้ที่ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ควรจะดูแลตนเองให้ดีที่สุด ตามแนวทางที่ทุก ๆ วันนี้แพทย์ออกมาแนะนำให้ปฏิบัติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรที่จะดูแลตนเองอย่างเคร่งครัดมากขึ้นด้วย เพราะหากท่านติดเชื้อขึ้นมาเมื่อใด อาการจะหนักกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพร่างกายด้วยการบริหารร่างกาย และกินอาหารที่มีคุณประโยชน์

 

สนับสนุนโดย    วิธีเล่นหวยรัฐบาล

เดอะมอลล์ เปิดบริการเดลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้าน

             ในช่วงสภาวะที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่า  พฤติกรรมการดำรงชีวิตและรูปแบบการใช้ชีวิตของประชาชนคนไทยค่อนข้างที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากโดยปัจจุบันนี้ทุกคนมุ่งเน้นเรื่องของความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสและมุ่งเน้นเรื่องของความสะดวกสบายเป็นหลัก ดังนั้นด้วยวิถีชีวิตแบบนี้จึงทำให้ปัจจุบันช่องทางการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์จึงได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ในตอนนี้ 

          เพราะจะเห็นได้ว่าการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์จะมีบริการจัดส่งให้ถึงบ้านซึ่งจะทำให้ผู้ที่สั่งซื้อสินค้านั้นไม่จำเป็นต้องออกไปนอกบ้านเพื่อเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสและการซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ยังเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่เราเรียกกันว่า New Normal หรือการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่แน่นอนว่ามันสามารถลดความเสี่ยงได้มากในการที่จะออกไปเผชิญกับเชื้อโรคอย่างอื่นไวรัสโคโรน่านั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามเมื่อวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงออกไปดังนั้นเจ้าของกิจการต่างๆโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าจึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ  โดยเริ่มหันมาเปิดการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์มากขึ้นซึ่งล่าสุดห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์  ก็ได้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า  ด้วยการร่วมมือกับบริษัทที่เปิดบริการ เดลิเวอรี่ 

           โดยทางบริษัทเดอะมอลล์จะมีการเปิดขายสินค้าผ่านออนไลน์ซึ่งสินค้าที่มีการขายนั้นจะขายทั้งของสดในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตรวมถึงอาหารที่มีการเปิดวางขายภายในห้างและยังมีพวกสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆโดยลูกค้าสามารถเข้าไปสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์และจะมีบริการจัดส่งให้กับลูกค้าถึงที่บ้าน  สำหรับการสั่งรายการสินค้าที่จะให้จัดส่งนั้นลูกค้าสามารถเลือกได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้าเพื่อทำการสั่งโดยตรงกับพนักงานหรือจะเข้าผ่านทางเว็บไซต์ของ

        แน่นอนว่ารูปแบบการจัดส่งสินค้านั้น ลูค้าจะเลือกให้ส่งแบบไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการที่ลูกค้าอยากจะรับของเอง แต่ให้พนักงานจัดเตรียมสินค้าเอาไว้ให้  หรือลูกค้าอยากจะขับรถมารับที่ห้าง และให้พนักงานนำสินค้าไปส่งให้ถึงที่รถก็ทำได้เช่นเดียวกัน หรือจะให้จัดส่งไปให้ที่บ้านก็ได้ ซึ่งถ้าหากลุกค้ามีการสั่งสินค้าเกิน หนึ่งพันห้าร้อยบาท ทางห้างเดอะมอลล์จะมีการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าฟรี

          นอกจากนี้ร้านอาหารที่ขายในห้างเดอะมอลล์นั้นก็สามารถจัดส่งให้กับลูกค้าได้เช่นเดียวกันซึ่งในห้างเดอะมอลล์นั้นจะมีมากกว่า 100 ร้านค้าที่ลูกค้าจะสามารถให้ทางห้างทำการจัดส่งอาหารให้ถึงที่บ้าน

          ทั้งนี้ด้วยบริการที่เปิดเพิ่มขึ้นมานี้เชื่อว่าจะสามารถเรียกลูกค้าให้มาใช้บริการกับห้างเดอะมอลล์ได้มากและจะส่งผลที่ห้างเดอะมอลล์สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการที่จะให้บริการลูกค้าที่ห้างเดอะมอลล์มีการเปิดบริการใหม่ให้เหมาะสมกับช่วงที่มีการระบาดของไวรัสนั่นเอง        

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยฮานอยแม่นๆวันนี้

เว็บไซต์คนละครึ่งดอทคอมเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้

       อย่างที่เรารู้กันดีว่าเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาซึ่งในขณะนี้เศรษฐกิจของไทยนั้นไม่ค่อยดีมากนักดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยมีการเชิญชวนให้ประชาชนนั้นออกไปท่องเที่ยวและออกไปจับจ่ายใช้สอย

         ซึ่งแน่นอนว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้ประชาชนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็นดังนั้นโครงการที่รัฐบาลมีออกมานั่นก็คือเป็นโครงการที่ช่วยเหลือเงินบางส่วนที่จะให้ประชาชนนั้นสามารถนำเงินนี้ออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันซื้ออาหารสำหรับใช้กินได้ในแต่ละวันโดยโครงการที่เปิดมานี้เรียกว่าโครงการคนละครึ่งซึ่งจะเป็นโครงการที่ให้ประชาชนนั้นได้รับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาลคนละ 3,000 บาท

             แต่มีเงื่อนไขในเรื่องของการใช้งานนั่นก็คือประชาชนจะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อเข้าโครงการก่อนและเมื่อมีการอนุมัติโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะสามารถที่จะนำเงินออกมาใช้จ่ายได้เพียงแต่ว่าเงินที่จะสามารถออกมาใช้จ่ายนั้นจะสามารถจ่ายได้เพียงแค่ครั้งละ 150 บาทเท่านั้นส่วนที่เหลือประชาชนจะต้องเป็นคนจ่ายเองโดยจะสามารถใช้ได้แค่เพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้นสำหรับ  

             เงื่อนไขของการเข้าไปทำการลงทะเบียนนั้นจะเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าไปทำการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 16 เดือนตุลาคมปีพศ2563 ในขณะเดียวกันตั้งแต่วันที่ 1 เดือนตุลาคมปีพศ2563 ก็จะมีการเปิดให้กับพวกร้านค้าต่างๆที่สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการได้เข้าไปทำการลงทะเบียนผ่านทาง www. คนละครึ่ง.com  

             ซึ่งก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการนั้นทางด้านร้านค้าควรจะต้องมีการศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขต่างๆก่อนว่าทางร้านค้าจะได้สิทธิประโยชน์อะไรจากการเข้าร่วมโครงการนี้และมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้หลังจากที่พอใจกับเงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการแล้วก็สามารถไปลงทะเบียนจากเว็บไซต์ก็ได้หรือถ้าไม่สะดวกที่จะทำผ่านเว็บไซต์ก็สามารถที่จะไปติดต่อธนาคารกรุงไทยสาขาไหนก็ได้หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะทำการช่วยลงทะเบียนให้

             ซึ่งร้านค้าจะต้องมีการแจ้งชื่อร้านและชื่อจังหวัดรวมถึงรายละเอียดข้อมูลต่างๆของร้านค้าและที่สำคัญจะต้องมีบัญชีของธนาคารกรุงไทยด้วยและแน่นอนว่าเมื่อร่วมโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วร้านค้าจะต้องมีการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่นตัวหนึ่งที่ชื่อว่าถุงเงินเพราะจะต้องมีการชำระเงินกันผ่านทางแอพพลิเคชั่นนี้

             และแน่นอนว่าร้านค้าจะได้รับเงินจากลูกค้าหลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าเสร็จแล้วก็จะมีการสแกนคิวอาร์โค้ดกันในการจ่ายเงินดังนั้นหากลูกค้าไม่มีแอปถุงเงินและร้านค้าไม่มีแอปถุงเงินก็จะไม่สามารถที่จะจ่ายเงินกันได้นั่นเองดังนั้นถ้าร้านค้าไหนสนใจก็สามารถไปร่วมลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

สนับสนุนโดย  หวยจับยี่กีรวย